วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดลับการนอนหลับสบาย


การนอนหลับในอุดมคติ คือ สามารถหลับได้ในเวลาอันรวดเร็ว หลับลึกต่อเนื่องเป็นเวลานาน และตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น แต่ความจริงมีน้อยคนที่จะโชคดีแบบนี้ เพราะคนส่วนใหญ่มีอัตราการตื่นเฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อคืน

การนอนหลับของคนเรานั้นมี 2 ช่วง คือ ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM) ที่แบ่งย่อยได้ถึง 4 ระยะ และช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM) รายละเอียดแต่ละช่วงมีดังนี้ค่ะ

ช่วงหลับธรรมดา
•ระยะที่ 1 หรือระยะหลับตื้น เป็นระยะที่ยังหลับไม่สนิท ครึ่งหลับครึ่งตื่น

•ระยะที่ 2 หรือระยะหลับจริง มักเกิดขึ้นภายใน 10 นาทีของการหลับตื้น ช่วงนี้อุณหภูมิร่างกายจะลดลง ส่วนอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ

•ระยะที่ 3 และ 4 หรือระยะหลับลึก เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายจะฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สภาพทั่วไปขณะหลับจะมีแรงดันเลือดลดลง หายใจช้าลง รวมทั้งกล้ามเนื้อทำงานน้อยลงด้วย ผู้ที่หลับในระยะนี้มักจะตื่นยาก

ช่วงหลับฝัน
การนอนหลับในระยะนี้จัดเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายยังคงฟื้นฟูตัวเองต่อเนื่องจากช่วงที่แล้ว และเป็นระยะที่เราจะเกิดความฝัน สภาพทั่วไปขณะนี้จะมีการหายใจค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ

การนอนหลับ จะเป็นไปตามจังหวะสลับกันไปมา 4 รอบ ระหว่างหลับตื้นและหลับลึก กินเวลาเฉลี่ยรอบละราว 90-110 นาที โดยแบ่งเป็นหลับตื้น 75 เปอร์เซ็นต์และหลับลึกอีก 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช่วงหลับธรรมดากับหลับฝันนั้นจะสลับกันไปมาตลอดคืนเช่นกัน โดยคิดเป็นหลับธรรมดา 75 เปอร์เซ็นต์และหลับฝันเพียง 25 เปอร์เซ็นต์

วิธีนอนหลับให้เป็นสุข
การนอนให้หลับอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ถ้าเรารู้ปัญหาและแก้ให้ถูกจุด ลองวิธีที่เราแนะนำก่อนไหมคะ

1. หากิจกรรมให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อย ถ้านั่งทำงานทั้งวัน ก็ต้องหาเวลาออกกำลังกาย หรือถูบ้านกวาดหยากไย่ กินข้าวเย็นเร็วหน่อย อย่าโอ้เอ้ไปจนใกล้เวลานอน เดินเล่น ทำ งานเบาเวลาเย็นๆค่ำๆ รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือเบาๆพวกนิตยสาร ไม่ดูทีวีที่มีเรื่องราวน่า ตื่นเต้น

2. สังเกตว่าเราอ่อนเพลีย ง่วงนอน หรืออยากจะหลับในช่วงไหน เวลาช่วงนี้จะ ค่อนข้างใกล้เคียงกันในแต่ละวัน เข้านอนในเวลาที่ง่วงทันที การยื้อเวลาออกไปทำให้หลับ ยาก ควรเข้านอนและตื่นให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกๆวันจะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

3. คนเราหลับเป็นช่วงๆ ตื้นและลึก ช่วงละ 2 ชั่วโมง ช่วงหลับลึกจะปลุกให้ตื่นก็ยาก ถ้าตื่นแล้วจะนอนหลับต่อก็ยาก ไม่ต้องบังคับตัวเองให้หลับถ้าทำไม่ได้ อ่านหนังสือสบายๆ หางานเบาๆทำ รอเวลาง่วงรอบต่อไปจะมาถึงอีก นอนในช่วงนั้นจะหลับง่ายกว่า อย่าเปิด ไฟสว่างจ้า หรือลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ควรจะอยู่แบบสงบสบายๆ

4. วางแผนไว้ในตอนเย็น ว่าจะไม่พกพาปัญหาหรือเรื่องกวนใจมาคิดตอนนอน เขียนสิ่งที่เป็นปัญหาหรือความกังวลไว้แทน เท่ากับช่วยระบายออกไปแล้ว ไม่ต้องเก็บมาคิดอีก ก่อนนอน

5. เมื่อหลับพอแล้ว อย่าทนนอนต่อเพื่อให้ครบชั่วโมงที่ต้องการ ตื่นเถอะ แล้วจะทำให้ เราสดชื่นไปตลอดวัน ถ้าวันไหนตื่นเช้ากว่าปกติ โดยไม่งัวเงียเลย แปลว่าเรานอนพอแล้ว เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่นได้เลย

6. ในมื้อเย็น ลดอาหารพวกเนื้อสัตว์หรืออาหารโปรตีน ใช้แป้งเป็นหลัก กินพวก เมล็ดทานตะวันอบ กล้วยหอม นมพร่องมันเนย มันเผา สาหร่ายทะเล ฟักทอง ซึ่งมีสาร แอลทริปโทแฟนซึ่งเป็นสารช่วยให้นอนหลับสูง

7. หลัง 4 โมงเย็นไปแล้ว พยายามงดพวกชา กาแฟ หรือเหล้าเบียร์ การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับ จะทำให้ระบบการนอนหลับของเราไม่เป็นไปตามธรรมชาติ จนไม่สามารถหลับเองได้

8. ไม่ควรใช้ยานอนหลับติดต่อกันนาน 1 เดือน และต้องปรึกษาคุณหมอก่อนใช้

9. อย่าออกกำลังกายใกล้เวลานอน

10. สร้างบรรยากาศการนอนให้ร่างกายผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือเบาๆ ฟังเพลง
อ่านไปอ่านมาชักจะง่วงๆ แล้วใช่ไหมล่ะ เอาละ คืนนี้ขอให้นอนหลับฝันดีกันถ้วนหน้านะคะ
ข้อมูลจาก :
- ศูนย์ตรวจการนอนหลับ โรงพยาบาลเทพธารินทร์
- หนังสือ นอนไม่หลับกำจัดได้ แปลและเรียบเรียงโดย คเณศ,
- หลับอย่างสงบ โดย น.พ.พิชัย เจริญพานิช

จากนิตยสาร Life & Family

0 ความคิดเห็น on "เคล็ดลับการนอนหลับสบาย"

แสดงความคิดเห็น

 

Followers

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
กรุงเทพฯ, Thailand
ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ KU58, ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 2548

เคล็ดลับสาวพันปีกับอาหารเพื่อสุขภาพ Copyright 2009 Shoppaholic Designed by Ipietoon Image by Tadpole's Notez