วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มะเร็งตับ ไม่แสดงอาการฆ่าคุึณได้ใน 3 เืดือน

0 ความคิดเห็น

มะเร็งตับกลายเป็นโรคร้ายน่ากลัวไม่แพ้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้า เพราะ มะเร็งตับ มีอานุภาพแห่งการทำลายล้างชีวิตของคุณได้แบบไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้มักจะไม่แสดงอาการ และเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย โดยเพศชายถูกพบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวมากกว่าเพศหญิงถึง 2 เท่า หากรักษาไม่ทันท่วงที สามารถเสียชีวิตลงได้ภายใน 3 – 6 เดือน ซ้ำร้ายโรคนี้ยังมีอัตราการรอดชีวิตอยู่ในขั้นต่ำ

มะเร็งตับมีทั้งแบบที่เกิดขึ้นกับตับโดยตรง เรียกว่า มะเร็งปฐมภูมิ ส่วนใหญ่มักจะเข้าไปทำลายเซลล์ตับ และเซลล์ท่อน้ำดีตับ อีกแบบเรียกว่า มะเร็งทุติยภูมิ เป็นการลุกลามของมะเร็งชนิดอื่นมาสู่ตับ

สาเหตุก่อมะเร็งในเซลล์ตับ คือ การได้รับหรือเป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ส่วนมะเร็งท่อน้ำดีตับ มักเกิดกับผู้ที่นิยมรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของดินประสิว หรืออาหารตากแห้งชนิดต่าง ๆ รวมทั้งมีเชื้อพยาธิใบไม้ตับที่อยู่ในปลาน้ำจืดปรุงไม่สุก

แม้ถูกระบุว่าเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการ แต่หากรู้สึกเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ต่ำ แน่นท้อง ท้องผูก ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวาและอาจคลำเจอก้อนเนื้อ ประกอบกับตัวและตาเหลือง ขาบวม พุงโต ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะอาการดังกล่าวถือเป็นภาวะเสี่ยงของมะเร็งตับ

ทางเลี่ยงและลดความเสี่ยง ควรตรวจเลือดเป็นประจำทุกปีเพื่อตรวจหาว่าติดเชื้อไวรัสหรือไม่ ทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ถือเป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ไม่มีส่วนผสมของดินประสิวหรือสารกันบูด รวมถึงเลี่ยงอาหารที่อาจมีเชื้อราปะปน พร้อมทั้งลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

ที่มา : http://heyhaparty.blogspot.com
read more “มะเร็งตับ ไม่แสดงอาการฆ่าคุึณได้ใน 3 เืดือน”

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วิธีอยู่กับคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข

0 ความคิดเห็น


ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้จำเป็นต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน หรือการพักผ่อนหย่อนใจในโลกไซเบอร์ แต่ถ้าเราทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ จะก่อให้เกิดปัญหาในร่างกาย เช่น ภาวะปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เอ็นอักเสบ หรือวุ้นในตาเสื่อม เป็นต้น

ลองนำ 10 วิธี ของเราไปปฏิบัติ แล้วคุณจะสามารถทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีความสุข

1. ควรตรวจสายตาก่อนทำงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ และตรวจวัดสายตาซ้ำเป็นระยะๆ

2. ผู้ที่แพ้แสงสว่าง ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนปฏิบัติงานร่วมกับคอมพิวเตอร์

3. ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะๆ ไม่ควรนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกินไป

4. จอจัดแสงที่จอแสดงภาพ (Monitor) ควรเหมาะสม คือไม่ควรมีแสงกระพริบ หรือวูบวาบ และควรมีความสว่างหรือความเข้มของแสงที่เหมาะสม คือ ควรปรับให้ ไม่สว่างหรือมืดเกินไป

5. ระยะจากสายตามายังจอคอมพิวเตอร์ ควรมีมุมก้มประมาณ 20 องศา ระยะห่าง 18-22 นิ้ว

6. การวางตำแหน่งมือที่แป้นพิมพ์ ข้อศอก ควรตั้งฉากกับลำตัว(ประมาณ 90-120 องศา) เพื่อลดแรงยกที่หัวไหล่

7. การจับ Mouse ไม่ควรให้ข้อมืออยู่ในตำแหน่งที่บิดเอียงออกทางด้านนอกลำตัว ควรจับในท่าที่ข้อมือเอียงหรือบิดน้อยที่สุด

8. เก้าอี้ ควรสามารถปรับระดับสูงต่ำ ตามสรีระของผู้ใช้งานได้ และต้องมีพนักพิงที่ปรับระดับได้ และที่พักแขน ส่วนเบาะรองนั่งควรมีลักษณะโค้งลาดลง ไม่เป็นสันคม และไม่กดที่ใต้ตำแหน่งของเข่า

9. จอแสดงภาพต้องสามารถปรับมุมก้มเงย หรือเอียงได้

10. หากปวดกล้ามเนื้อหรือเอ็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ที่สำคัญ การทำงานทุกการทำงานต่อเนื่องกัน 2 ชั่วโมง ควรมีการหยุดพักประมาณ 10 นาที ด้วยนะครับ ขอบคุณหนังสือ วิทยาการจัดสภาพงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย และหนังสือสุขอนามัยของผู้ทำงานกับคอมพิวเตอร์

ที่มา :นพ.วิชนาท สีบุญเรือง แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ รพ.วิภาวดี
read more “วิธีอยู่กับคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข”

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

10 ความลับสุดยอดที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับร้านริมทาง

0 ความคิดเห็น

เจ้าของร้านอาหาร มีประสบการณ์ต่างๆ มา share ให้อ่านเล่นๆลองสังเกตดูว่า มันจริงมั้ย

1. แก้วน้ำล้างแบบไม่ใช้น้ำยาล้างจานเกือบทุกร้าน 90% จะล้างแบบจ้วงๆ น้ำสักสองสามครั้งเป็นอันเสร็จพิธีแล้วมันจะสะอาดมั้ยเนี่ย ยิ่งหวัด2009กำลังระบาดนะ

2. ประหยัดน้ำล้างจานกันจัง กะละมังเดียว ล้างเกือบ 200 จานร้านเหล่านี้มักมีแหล่งน้ำน้อย หรือต้องจ่ายตังค่าน้ำแพง

3. ตะเกียบเก๊าส์เก่าส์ บางร้านเป็นพลาสติกดั๊มดำ บางร่านไม้ไผ่ขึ้นราดำ เศร้าง่ะ

4. กระทะผัดแล้วผัดอีก จนกลิ่นไหม้ติด เลย ระหว่างจานแค่ราดน้ำแล้วใช้ตะหลิวเขี่ยกระทะกังเชี๊ยะ เชี๊ยะ เชี๊ยะ เสร็จเรียกว่าไม่ล้งไม่ล้างมันและ

5. น้ำเปล่าที่ให้กินฟรีน่ะ น้ำก๊อกล้วนๆ บางร้านใจดีใช้น้ำก๊อกมาต้มกะใบชา โอเคละ น้ำประปาดื่มได้

6. ทำไมมีแต่ข้าวเสาไห้ง่ะ มีข้าวหอมมะลิบ้างไหมครับ หรือว่าคนรุ่นใหม่กินข้าวหอมมะลิไม่เป็น???

7. เกือบทุกร้านไม่ใช้น้ำปลาทิพรสจริง เอาน้ำปลาถูกๆมากรอกใส่ขวดทิพรสเฉย ถ้าโชคดีก็เจอร้านที่เปลี่ยนพริกทุกวัน โชคร้ายเจอพริกเน่าข้ามปี

8. ผัดกะเพรายอดฮิตของทุกท่าน มีส่วนผสมของผงชูรสประมาณ 1 ช้อนชา (ถ้าคุณกินทุกวัน ปีนึง 300 กว่าช้อนชา) มิน่าแชมพูหยุดการหลุดร่วงของเส้นผมจึงขายดี๊ ดีอีกอย่างมีร้านไหนล้างกะเพราบ้าง สังเกตมาหลายร้านแล้ว เด็ดจากกิ่งมาผัดไม่เคยเห็นร้านไหนล้างเลย แล้วขี้ดิน สารพิษ ฯลฯ เต็มๆ

9. น้ำมันที่ใช้ผัด เป็นน้ำมันเก่า (ผ่านการทอดจนใช้ไม่ได้แล้ว) เค้าเก็บรวบรวมใส่ปี๊บเก่าๆ (ขึ้นสนิม) ขายต่อให้พ่อค้านำไปผ่านกรรมวิธีแล้วนำมาแบ่งถุงขาย (มะเร็ง แน่นอน)

10. เคยกินหมูนุ่มๆ เนื้อนุ่มๆมั้ย ทั้งหมดนั้นเค้าไม่ได้หมักด้วยกรรมวิธีธรรมชาติหรอกใช้ผงปิศาจ (เพื่อนเรียกผงปิศาจ) มาหมักให้นุ่มเร็วๆ ที่สำคัญไม่มียี่ห้อไหนผ่านการรับรองด้วยอิอิ อยากรู้ว่าแรงแค่ไหน ให้ตักใส่มือสัก 1/4ช้อนชาครับหยดน้ำลงไป1หยด กำไว้ 1 นาที หนังมือไม่ลอกก็แสดงว่าคุณไม่ใช่มนุษย์


read more “10 ความลับสุดยอดที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับร้านริมทาง”
 

Followers

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
กรุงเทพฯ, Thailand
ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ KU58, ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 2548

เคล็ดลับสาวพันปีกับอาหารเพื่อสุขภาพ Copyright 2009 Shoppaholic Designed by Ipietoon Image by Tadpole's Notez